คราบสนิมสีส้มบนจานเบรกหลังโดนความชื้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แต่สนิมนั้นมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายและแบบที่ต้องรีบแก้ไข2 ประเภทหลัก เพื่อให้คุณรู้ว่าแบบไหนปลอดภัย และแบบไหนคือสัญญาณเตือนว่าต้องนำรถเข้าตรวจสอบ
1.สนิมผิวหน้า
หากเป็นสนิมที่หน้าผิวจานเบรกเล็กน้อย ไม่มีผลต่อการใช้งาน เมื่อคุณขับรถ และแตะเบรกในครั้งแรกๆ ผิวหน้าที่เป็นสนิมก็จะถูกขัดออกด้วยแรงเสียดสีจากผ้าเบรก ซึ่งทำให้จานเบรกกลับมาเรียบเงาได้เองหลังจากใช้งานไม่กี่ครั้งสนิมชนิดนี้จึงเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล
2.สนิมลึก / สนิมขุม
แต่หากเป็นสนิมที่ผิวหน้าจานเบรก หนาหรือลึก จนกินเข้าไปในเนื้อจานเบรก อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น เสียงเบรกดัง,ประสิทธิภาพการเบรกลดลง, ผ้าเบรกสึกไม่สม่ำเสมอ, และอาการเบรกสั่นสู้เท้า เป็นต้น สนิมชนิดนี้มักเกิดจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน และเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ควรได้รับการแก้ไขทันที
วิธีป้องกัน
- การใช้เบรกเป็นประจำ เพราะช่วยขัดผิวหน้าจานเบรกให้สะอาดอยู่เสมอ
- จอดรถในที่ร่มและแห้ง ช่วยลดการสัมผัสกับฝนและความชื้นโดยตรง
- หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำมันหรือสารหล่อลื่น บนจานเบรกเพราะจะทำให้ผิวลื่นและลดประสิทธิภาพเบรก
วิธีแก้ไข
- การเจียรจานเบรก เป็นการไสผิวหน้าจานเบรกที่ขรุขระจากสนิมออกเพื่อให้กลับมาเรียบอีกครั้ง กรณีที่สนิมไม่ลึกมากและจานเบรกยังมีความหนาเหลือเฟือตามค่ามาตรฐานความปลอดภัย
- การเปลี่ยนจานเบรกใหม่ เป็นวิธีที่ปลอดภัยและดีที่สุดหากจานเบรกเป็นสนิมลึกมากหรือบางกว่าค่ามาตรฐาน โดยควรเปลี่ยนเป็นคู่ (ซ้าย-ขวา) เพื่อให้การเบรกสมดุล
สนิมบนจานเบรกไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป หากเป็นเพียงสนิมผิวหน้าที่เกิดขึ้นชั่วคราวก็ไม่ต้องกังวล แต่หากเป็นสนิมลึกที่ส่งผลต่อการเบรก ควรนำรถเข้าปรึกษาช่างผู้ชำนาญทันที เพราะระบบเบรกคือหัวใจสำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่