TAG: Common knowledge

Aftermarket

จานเบรกขึ้นสนิมแล้ว มีปัญหากับการใช้งานหรือไม่?

คราบสนิมสีส้มบนจานเบรกหลังโดนความชื้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แต่สนิมนั้นมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายและแบบที่ต้องรีบแก้ไข2 ประเภทหลัก เพื่อให้คุณรู้ว่าแบบไหนปลอดภัย และแบบไหนคือสัญญาณเตือนว่าต้องนำรถเข้าตรวจสอบ 1.สนิมผิวหน้า หากเป็นสนิมที่หน้าผิวจานเบรกเล็กน้อย ไม่มีผลต่อการใช้งาน เมื่อคุณขับรถ และแตะเบรกในครั้งแรกๆ ผิวหน้าที่เป็นสนิมก็จะถูกขัดออกด้วยแรงเสียดสีจากผ้าเบรก ซึ่งทำให้จานเบรกกลับมาเรียบเงาได้เองหลังจากใช้งานไม่กี่ครั้งสนิมชนิดนี้จึงเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล 2.สนิมลึก / สนิมขุม แต่หากเป็นสนิมที่ผิวหน้าจานเบรก หนาหรือลึก จนกินเข้าไปในเนื้อจานเบรก อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น เสียงเบรกดัง,ประสิทธิภาพการเบรกลดลง, ผ้าเบรกสึกไม่สม่ำเสมอ, และอาการเบรกสั่นสู้เท้า เป็นต้น สนิมชนิดนี้มักเกิดจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน และเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ควรได้รับการแก้ไขทันที วิธีป้องกัน การใช้เบรกเป็นประจำ เพราะช่วยขัดผิวหน้าจานเบรกให้สะอาดอยู่เสมอ จอดรถในที่ร่มและแห้ง ช่วยลดการสัมผัสกับฝนและความชื้นโดยตรง หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำมันหรือสารหล่อลื่น บนจานเบรกเพราะจะทำให้ผิวลื่นและลดประสิทธิภาพเบ

Aftermarket

เบรกสั่นสู้เท้า เกิดจากสาเหตุอะไร…?

เคยไหม? เวลาเหยียบเบรกแล้วรู้สึกว่าแป้นเบรกสั่นกระพือสู้เท้า หรือบางครั้งอาจสั่นสะท้านไปถึงพวงมาลัย อาการเหล่านี้คือสัญญาณเตือนที่เรียกว่า “เบรกสั่น” หรือ “Brake Judder” เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบเบรกที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยได้ ส่วนใหญ่เกิดจาก จานเบรกคดหรือผิดรูป สาเหตุที่ทำให้จานเบรกคดหรือผิดรูป   1.การทนความร้อนของวัสดุ จานเบรกที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน อาจไม่สามารถทนทานต่อความร้อนสูงที่เกิดจากการเบรกหนักๆหรือการขับขี่ในเส้นทางลงเขาต่อเนื่องยาวนานได้ ทำให้เนื้อเหล็กเกิดการบิดตัวเสียรูปทรง 2.การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน จานเบรกที่ร้อนจัดโดนน้ำเย็นทันที ทำให้เนื้อเหล็กบิดตัวผิดรูป เกิดการหดและขยายตัวอย่างรวดเร็วและไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้จานเบรกบิดเบี้ยว สามารถแก้ไขชั่วคราวได้ด้วยการเจียรจาน วิธีการแก้ปัญหา 1.การเจียรจานเบรก  เป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่ใช้ปรับผิวหน้าของจานเบรกให้เรียบเสมอกัน อย่างไรก็ตามสามารถแก้ไขใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น การเจียรจะไม่สามารถแก้ไขอาการเบรกสั่นได้อย่างถาวร และอาจส่งผลให้จานหมดอายุการใช้งานเร็วขึ้

BREMBO

ระบบ ABS มีผลต่อระยะเบรก ความปลอดภัยในสภาพถนนลื่นอย่างไร

ในสถานการณ์ฤดูที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษบนถนนลื่น ระบบเบรก ABS มีบทบาทสำคัญ ในการทำงานอย่างไร และส่งผลต่อระยะเบรกจริงหรือไม่ ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) เข้ามามีบทบาทสำคัญป้องกันล้อล็อกในยามเบรกแรงถูกออกแบบมาเพื่อลดโอกาสที่ล้อรถจะล็อกตายทำให้ผู้ขับขี่ยังคงบังคับทิศทางของรถได้แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเบรกกะทันหันหรือขับบนถนนที่ลื่น. หลักการทำงานของ ABS เมื่อคุณเหยียบเบรกจนสุดเพื่อหยุดรถกะทันหัน เซ็นเซอร์ที่ล้อจะทำงานทันที หากตรวจพบว่าล้อใดกำลังจะหยุดหมุน (ล็อก) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบ ABS  จะเข้าควบคุมระบบเบรกทันที โดยสั่งให้ปั๊มเบรก ” จับและปล่อย ”  ที่จานเบรกซ้ำๆความเร็วสูงถึง 16-50 ครั้งต่อวินาที เพื่อป้องกันการล็อก ซึ่งการทำงานนี้จะส่งผลให้ผู้ขับขี่ รู้สึกถึงอาการสั่นสะท้านที่แป้นเบรกเป็นจังหวะถี่ๆ และนั่นคือสัญญาณว่าระบบกำลังทำงานอย่างถูกต้อง ผลต่อระยะเบรกและความปลอดภัย บนถนนแห้งและปกติ: ระยะเบรกของรถที่มี ABS โดยปกติจะสั้นลง หรือใกล้เคียงกับเบรกแบบปกติ หากเบรกในกรณีฉุกเฉินแรงๆ เพราะล้อจะไม่ถูกล็อก บนถนนเปียกลื่น: ระบบ ABS จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเข

Common knowledge

วิธีเลือกเกียร์รถ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์รถติดไฟแดง

การเลือกเกียร์ให้เหมาะกับสถานการณ์รถติดไฟแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจราจรในเมือง การจอดติดไฟแดงบ่อย หยุดนิ่งนานๆ หรือขยับแบบช้าๆ ต้องใช้เกียร์อย่างไรถึงจะดีต่อระบบเกียร์และช่วยยืดอายุรถ วันนี้เรามีคำแนะนำมาฝากกัน กรณีหยุดรถไม่นาน (ประมาณไม่เกิน 1 นาที) เกียร์ D (Drive) เหมาะสำหรับการหยุดชั่วคราว เช่น รถติดไฟแดงไม่เกิน 1 นาที หรือจราจรเคลื่อนตัวช้า ๆ สลับหยุดเป็นช่วง ๆ ให้เข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ๆ เพื่อถนอมระบบเกียร์และลดความสึกหรอ กรณีหยุดรถนาน (มากกว่า 1 นาทีขึ้นไป) เกียร์ N (Neutral) ควรเปลี่ยนไปใช้เกียร์ว่าง พร้อมดึงเบรกมือขึ้น เพื่อป้องกันรถไหลและลดภาระของระบบเกียร์ การใช้เกียร์ N ช่วยลดความร้อนสะสมในชุดเกียร์ และช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น หลีกเลี่ยงการใช้เกียร์ P (Park) ขณะรถยังติดเครื่องและหยุดนิ่ง เพราะเกียร์ P มีระบบล็อกชุดเกียร์ไว้หากเปลี่ยนเกียร์ P ขณะรถยังเคลื่อนที่อยู่ อาจทำให้ระบบเกียร์เสียหายได้ การใช้เกียร์ P (Park) ใช้เฉพาะตอนจอดรถดับเครื่องยนต์ หรือจอดบนทางลาดชันเพื่อป้องกันรถไหล ไม่ควรใช้เกียร์ P ขณะรถยังติดเครื่องและหยุดนิ่งบนถนน

BREMBO

หน้าฝนนี้ ลุยน้ำยังไงให้ปลอดภัย?

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน อย่าประมาทหากต้องขับลุยน้ำท่วม วันนี้เรามีเทคนิคขับรถลุยน้ำท่วมมาฝาก ทั้งการประเมินระดับน้ำก่อนลุย และวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ เพื่อความปลอดภัยของคุณและรถที่คุณรัก 1.ประเมินระดับน้ำก่อนลุย น้ำไม่ควรเกินครึ่งล้อ (ไม่เกิน 30 ซม.) หากน้ำสูงเกินนี้ควรหลีกเลี่ยง เพราะเสี่ยงที่น้ำจะเข้าเครื่องยนต์หรือห้องโดยสารได้ โดยสังเกตจากรถคันอื่นที่ขับผ่าน หรือดูระดับน้ำเทียบกับฟุตบาท ถ้าท่วมถึงขอบประตู = หยุด! อย่าลุย หยุดรถทันทีและไม่ลุยต่อ เพราะน้ำอาจไหลเข้าห้องโดยสารและระบบไฟฟ้า ทำให้เครื่องยนต์ดับหรือเกิดความเสียหายได้ ควรโทรแจ้งประกันภัยหรือหน่วยช่วยเหลือ และหากน้ำเข้ารถ ให้ปิดแอร์ ปิดสวิตช์ไฟ และถอดแบตเตอรี่ออก (ถ้าทำได้) เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร 2.เทคนิคขับลุยน้ำ ใช้เกียร์ต่ำ / ลดความเร็ว สำหรับเกียร์กระปุกควรใช้แค่ เกียร์ 1  หรือ เกียร์ 2 สำหรับเกียร์ออโต้ควรใช้เกียร์L หรือ เกียร์ 1 พร้อมลดความเร็วให้อยู่ในช่วง 60-80 กม./ชม เพื่อรักษารอบเครื่องยนต์ 1,500-2,000 รอบ/นาที ลดโอกาสเครื่องยนต์ดับและป้องกันน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ เว้นระยะห่างจากคันหน้า การเว้นระยะห่างจากคันหน้าเมื่อขับรถล

ACDelco

เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนแบรนด์ไหนตอบโจทย์รถคุณ? ACDelco vs DENSO

การเลือกใบปัดน้ำฝนที่เหมาะสมกับรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะใบปัดน้ำฝนที่ดีจะช่วยให้ทัศนวิสัยขณะขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น มาดูจุดเด่นของแต่ละแบรนด์ยอดนิยมอย่าง ACDelco และ DENSO เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จุดเด่นของ ACDelco มี Universal Adaptor ที่ช่วยให้ติดตั้งได้กับรถหลายรุ่น โครงใบปัดน้ำฝนทำจากวัสดุที่ทนทานต่อแสงแดดและสภาพอากาศรุนแรง ใบปัดน้ำฝนมีความยืดหยุ่นสูง ปัดน้ำฝนได้เต็มประสิทธิภาพและเงียบเรียบลื่น ไม่มีสะดุด ใบปัดน้ำฝนของ ACDelco มีให้เลือก 2 แบบ คือ ใบปัดน้ำฝนแบบก้านแข็ง  และใบปัดน้ำฝนแบบก้านอ่อน เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและรูปแบบของรถยนต์แต่ละรุ่น จุดเด่นของ DENSO ใบปัดน้ำฝนเคลือบกราไฟท์ (Graphite Coating) ช่วยลดแรงเสียดทานและรักษารูปทรงของยาง เทคโนโลยี Smoothing ช่วยให้แรงกดสม่ำเสมอ ปัดน้ำฝนได้ราบรื่นบนกระจกโค้งทุกรุ่น การตัดเนื้อยางแบบ Super Cut ทำให้เนื้อยางเรียบและปัดน้ำฝนได้หมดจด ทั้งสองแบรนด์มีคุณภาพสูงและเหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศของประเทศไทย การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ เช่น หากต้องการความทนทานและติดตั้งง่าย ACDelco เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าต้องการ

ACDelco

🌧เตรียมรถให้พร้อมก่อนลุยฝน เช็กอะไหล่สำคัญ ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ 🚗🚨

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน การขับขี่รถยนต์ย่อมมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งจากทัศนวิสัยที่ลดลง ถนนลื่น และอุปกรณ์ในรถที่อาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ การเตรียมรถให้พร้อมรับมือกับสภาพอากาศจึงเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนไม่ควรมองข้าม วันนี้เราขอแนะนำ 5 จุดสำคัญที่ควรตรวจเช็กก่อนลุยฝน 1.ใบปัดน้ำฝน ✅ตรวจสอบสภาพยางใบปัด หากปัดไม่สะอาดหรือมีเสียง ควรเปลี่ยนทุก ๆ 6 เดือน เนื่องจากยางปัดน้ำฝน ไม่เพียงแต่เสื่อมสภาพจากการโดนความร้อนและแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว ยังมีการเสียดสีระหว่างยางกับกระจกอีกด้วย 2.น้ำยาฉีดกระจก ✅เติมน้ำให้เต็มเสมอ เพื่อช่วยล้างคราบโคลนหรือฝ้าบนกระจกแนะนำให้ตรวจเช็กระดับน้ำหม้อพักสำหรับฉีดกระจกบานหน้าและหลัง 3.ระบบไฟส่องสว่าง ✅เช็กไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟตัดหมอก ให้ทำงานได้ปกติทุกดวง เพราะแสงสว่างช่วยให้การมองเห็นชัดเจนขึ้น ทั้งในรถของตัวเองและสำหรับรถที่อยู่ด้านหน้าหรือคันที่ตามหลัง 4.ระบบเบรก ✅ตรวจสอบผ้าเบรกและการทำงานของเบรก โดยเฉพาะหลังลุยน้ำขัง เพื่อให้มั่นใจว่าหยุดรถได้อย่างปลอดภัย หากพบเสียงผิดปกติหรือเบรกไม่ตอบสนอง ควรเปลี่ยนทันที 5.ยางรถยนต์ ✅ตรวจดอกยางให้ลึกไม่น้อยกว่า

Common knowledge

5 สัญญาณเตือนสายพานไทม์มิ่งเสีย ที่ไม่ควรมองข้าม | รู้ทันก่อนเครื่องยนต์พัง

5 สัญญาณเตือน สายพานไทม์มิ่งเสีย ที่ไม่ควรมองข้าม สายพานไทม์มิ่ง (Timing Belt) คือชิ้นส่วนสำคัญที่ควบคุมจังหวะการทำงานของเครื่องยนต์ หากสายพานนี้ชำรุด อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายหนักจนถึงขั้นต้องยกเครื่องใหม่ ดังนั้นการสังเกตอาการผิดปกติจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก 1. เสียงแหลมหรือเสียงแปลกๆ จากเครื่องยนต์ เสียงที่ผิดปกติมักเกิดจากสายพานที่หลวม หรือฟันของสายพานเริ่มเสื่อมสภาพ หากได้ยินเสียงแหลม ควรรีบให้ช่างตรวจสอบทันที 2. รถสตาร์ทยากหรือไม่ติด เมื่อสายพานไทม์มิ่งทำงานผิดพลาด ระบบการทำงานของเครื่องยนต์จะไม่สัมพันธ์กัน ทำให้การสตาร์ทรถมีปัญหา 3. เครื่องยนต์สั่นหรือทำงานไม่เรียบ หากสายพานควบคุมการเปิด-ปิดวาล์ว และการเคลื่อนที่ของลูกสูบได้ไม่แม่นยำ จะส่งผลให้เครื่องยนต์เดินไม่เรียบหรือสั่นผิดปกติ 4. เครื่องยนต์ร้อนเกินไป สายพานไทม์มิ่งที่เสีย อาจส่งผลต่อระบบระบายความร้อน เช่น ปั๊มน้ำทำงานผิดพลาด จนนำไปสู่ปัญหาความร้อนสะสม 5. ไฟ Check Engine โชว์ ระบบเซ็นเซอร์ในรถจะตรวจพบความผิดปกติในจังหวะการทำงานของเพลาข้อเหวี่ยงและเพลาลูกเบี้ยว หากไฟแจ้งเตือนขึ้น ควรรีบตรวจสอบโดยด่วน ✅ ทริคการดูแลสายพานไทม์มิ่

BREMBO

5 สัญญาณเตือน ใกล้ถึงเวลาเปลี่ยนจานเบรก‼️

สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าจานเบรกใกล้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนมีหลายประการ ซึ่งสามารถสังเกตได้จากอาการต่างๆ ของรถยนต์ ดังนี้ 🚨เสียงดังขณะเบรก หากมีเสียงดังหรือเสียงแหลมเมื่อใช้เบรก อาจเป็นสัญญาณที่จานเบรกสึกหรอหรือผ้าเบรกใกล้จะหมด 🚨การสั่นของพวงมาลัยหรือแป้นเบรก การสั่นหรือสู้เท้าเมื่อใช้เบรกอาจบ่งบอกว่าจานเบรกไม่เรียบหรือบิดเบี้ยว 🚨ประสิทธิภาพการเบรกลดลง หากรถไม่หยุดอย่างรวดเร็วเมื่อใช้เบรก อาจเป็นสัญญาณที่จานเบรกหรือผ้าเบรกสึกหรอ 🚨รอยหรือร่องบนจานเบรก การตรวจสอบจานเบรกพบว่ามีรอยหรือร่องอาจบ่งบอกว่าจานเบรกสึกหรอและอาจต้องเปลี่ยน 🚨ความหนาของจานเบรก หากความหนาของจานเบรกลดลงจนถึงขั้นต่ำที่กำหนด ควรเปลี่ยนจานเบรกทันที   ⚙️✅จานเบรก เป็นชิ้นส่วนสำคัญในระบบเบรกที่ช่วยหยุดรถ หากเสื่อมสภาพจะส่งผลต่อความปลอดภัยและสมรรถนะการขับขี่ จานเบรกมีอายุการใช้งานเมื่อถึงระยะที่กำหนด ควรเปลี่ยนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด   ปรึกษา/สั่งซื้อ/สมัครตัวแทน : Line id @gpautoparts (มี @) หรือคลิก https://bit.ly/3fO3YMO

Common knowledge

เลือกโช๊คอัพแบรนด์ไหนดี ให้เข้ากับรถของคุณ

การเลือกโช๊คอัพที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์ แต่ต้องพิจารณาจากสไตล์การใช้งานและสภาพถนนที่เจอในแต่ละวันอีกด้วย GP Autoparts คัดมาให้แล้ว เพื่อตัดสินใจง่ายขึ้นกันครับ โช๊คอัพในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก 1.โช๊คอัพไฮดรอลิก (Hydraulic Shock Absorbers) ใช้น้ำมันไฮดรอลิก (80% น้ำมัน, 20% อากาศ) ที่ทำงานผ่านวาล์วในลูกสูบสร้างฟองอากาศช่วยให้รถมีความนุ่มนวลและทรงตัว เหมาะกับการใช้งานทั่วไป 2.โช๊คอัพแก๊ส (Gas Charged Shock Absorbers) ผสมแก๊สไนโตรเจน กับน้ำมันเพื่อป้องกันการเกิดฟองอากาศ ให้การดูดซับแรงกระแทกที่เสถียรและตอบสนองได้รวดเร็วกว่าแบบไฮดรอลิก เป็นที่นิยมในรถที่ต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ท้าทายหรือใช้งานหนัก 3.โช๊คอัพปรับเปลี่ยนค่า (Adaptive/Active Shock Absorbers) ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนระดับแรงต้านและความหนืดในการดูดซับแรงกระแทกเหมาะกับรถยนต์สมัยใหม่ที่ต้องการปรับเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม 📌TOKICO โช๊คอัพได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในสภาพถนนที่ท้าทายและหนัก ดูดซับแรงกระแทกได้ดี รุ่นที่นิยม ได้แก่ ✅TOKICO Standard Series : สำหรับการใช้งานทั่วไปในรถกระบะหรือ SUV ✅TOKICO Alpha Se

ค้นหา:

More Posts