HINO

TAG – แหล่งรวบรวม ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว สถานการณ์ บทวิเคราะห์ การทดสอบ และ สาระน่ารู้ รวมถึงเป็นสื่อกลางข้อมูลผลิตภัณท์ HINO

ขับรถลุยน้ำมา…ต้องทำอะไรบ้าง

ช่วงนี้ฝนยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง และเริ่มเข้าสู่ ช่วงปลายฝน ที่มักจะมีพายุและปัญหาน้ำท่วมขังบนท้องถนนตามมาหลายคนคงต้องเผชิญกับการขับรถลุยน้ำที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้การขับรถลุยน้ำอาจดูเป็นเรื่องจำเป็น แต่การดูแลรถหลังจากนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะน้ำสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับรถของคุณได้ในระยะยาว การตรวจสอบรถเบื้องต้นทันทีจะช่วยป้องกันปัญหาไม่ให้บานปลายได้ มาดู 5 จุดสำคัญที่คุณควรเช็กทันทีหลังขับลุยน้ำ 1.ตรวจสอบระบบเบรก หลังลุยน้ำ ควรเหยียบเบรก 2-3 ครั้ง เพื่อไล่น้ำและความชื้นออกจากผ้าเบรกและจานเบรก ช่วยคืนประสิทธิภาพการเบรกและป้องกันการเกิดสนิม ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ต่อไป 2.ตรวจเช็คเครื่องยนต์และน้ำมันเครื่อง สังเกตก้านวัดน้ำมันเครื่อง หากพบว่าน้ำมันเปลี่ยนสีเป็นขุ่นหรือแยกชั้น แสดงว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและไส้กรองทันที เพื่อลดความเสียหายรุนแรง 3.ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช็คกล่องฟิวส์, ขั้วแบตเตอรี่, และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ว่ามีน้ำเข้าไปหรือชื้นหรือไม่ หากพบความผิดปกติ  ควรนำรถเข้าอู่ช่างเพื่อซ่อมแซมโดยเร็ว 4.ดูแลภายในห้องโดยสาร ตรว

รถป้ายแดงใช้ได้กี่วัน? อัปเดตล่าสุด 2568 พร้อมข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยนเป็นป้ายขาว

หนึ่งในคำถามแรกๆ ที่เจ้าของรถป้ายแดงทุกคนสงสัยคือ “เราจะใช้ป้ายแดงได้กี่วัน?”และเมื่อไหร่ถึงจะได้ป้ายขาวมาใช้งาน บทความนี้มีคำตอบที่ชัดเจนตามกฎหมายล่าสุดปี 2568 พร้อมสรุปข้อจำกัดและขั้นตอนที่สำคัญที่คุณไม่ควรพลาด กฎหมายกำหนด “ป้ายแดง” ใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน ตามกฎหมายแล้ว รถป้ายแดงสามารถใช้งานได้ ไม่เกิน 30 วัน นับจากวันที่รับรถ หรือตามระยะทางที่กำหนดไว้ในสมุดคู่มือไม่เกิน 3,000 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 30 วันนี้ เจ้าของรถหรือศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถยนยต์ (ดีลเลอร์) จะต้องดำเนินการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกให้เรียบร้อยเพื่อรับ “ป้ายขาว” หรือป้ายทะเบียนถาวรมาใช้งาน การใช้ป้ายแดงเกินกว่ากำหนดเวลาดังกล่าวถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ข้อจำกัดสำคัญที่ผู้ใช้รถป้ายแดง “ต้องรู้” การใช้ป้ายแดงไม่ได้ให้อิสระเหมือนป้ายขาว แต่มีข้อจำกัดที่สำคัญ 3 ประการที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด: ห้ามขับขี่ตอนกลางคืน: รถป้ายแดงไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานบนท้องถนนระหว่างเวลาโดยทั่วไปคือหลัง 18:00 น. ถึงก่อน 06:00 น.เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่ ห้ามขับข

ควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไร? สัญญาณเตือนและเหตุผลที่ห้ามมองข้าม

หนึ่งในการบำรุงรักษาที่สำคัญที่สุดแต่กลับถูกละเลยมากที่สุด คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก หลายคนอาจมีคำถามว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเบรกเมื่อไร? คำตอบที่เป็นมาตรฐานสากลคือ ทุก 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร แต่เป็นข้อกำหนด ที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยในการขับขี่ละอะไรจะเกิดขึ้นหากเราไม่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกตามกำหนด หัวใจสำคัญ: ทำไมน้ำมันเบรกถึง “เสื่อมสภาพ” ได้? สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำมันเบรกต้องมีวันหมดอายุการใช้งาน มาจากคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เรียกว่า “การดูดความชื้น” (Hygroscopic) น้ำมันเบรก (ประเภท DOT 3, 4, 5.1) ถูกออกแบบมาให้ดูดซับความชื้นจากอากาศ สามารถแทรกซึมเข้าระบบผ่านสายเบรกและซีลต่างๆ ได้ตลอดเวลา เมื่อน้ำมันเบรกชื้นขึ้น ประสิทธิภาพก็จะลดลงและก่อให้เกิดปัญหาตามมา รู้จัก “จุดเดือดแห้ง” vs “จุดเดือดเปียก” เนื่องจากน้ำมันเบรกจะดูดความชื้นในอากาศ ทำให้มีจุดเดือดที่ต่ำลง มาตรฐานสากลจึงกำหนดค่าจุดเดือดไว้ 2 ค่า คือ: จุดเดือดแห้ง (Dry Boiling Point): คือจุดเดือดของน้ำมันเบรกใหม่ที่ยังไม่มีความชื้นปนเปื้อน ซึ่งจะมีค่าสูงมาก จุดเดือดเปียก (Wet Boiling Poin

รถอาการ “โคลงเคลง” สัญญาณเตือนช่วงล่างพัง ที่ไม่ควรมองข้าม

เคยไหม? เวลาขับรถเปลี่ยนเลนเร็วๆ หรือเข้าโค้งแล้วรู้สึกว่ารถมีอาการโยนตัว ไม่เกาะถนนเหมือนเคย หรือเวลาขับผ่านพื้นถนนขรุขระแล้วรถมีอาการส่ายไปมาอาการเหล่านี้คือความรู้สึก “โคลงเคลง” ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของความนุ่มนวลในการขับขี่ที่ลดลง แต่เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่าระบบช่วงล่างของรถคุณกำลังมีปัญหาและอาจนำไปสู่อันตรายที่ไม่คาดคิดได้ “โคลงเคลง” เกิดจากอะไร? เช็ก 4 จุดสำคัญของระบบช่วงล่าง อาการโคลงเคลงมักมีสาเหตุมาจากความเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนสำคัญในระบบช่วงล่าง ซึ่งทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทกและรักษาเสถียรภาพของตัวรถ โดยจุดที่ควรตรวจสอบเป็นอันดับแรก มีดังนี้ 1. โช้คอัพ (Shock Absorbers) เสื่อมสภาพ โช้คอัพทำหน้าที่หน่วงการเคลื่อนที่ของสปริง ทำให้รถนิ่งและเกาะถนน แต่เมื่อโช้คอัพเสื่อมสภาพหรือ “ตาย” จะไม่สามารถควบคุมการดีดของสปริงได้ อาการ: รถมีอาการเด้งขึ้นลงหลายครั้งหลังจากขับผ่านลูกระนาด, มีคราบน้ำมันรั่วซึมออกมาจากตัวโช้ค, หน้ารถทิ่มลงมากกว่าปกติเวลาเบรกแรงๆ 2. เหล็กกันโคลง และ บูชกันโคลง (Sway Bar & Bushings) หลวมหรือขาด ชิ้นส่วนนี้มีหน้าที่โดยตรงในการป

How to เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนเอง ได้ง่ายๆเหมือนมือโปร

การเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนจะไม่ใช่เรื่องยากและวุ่นวายอีกต่อไป! ACDelco ขอเสนอใบปัดน้ำฝนคุณภาพสูงรุ่น Beam Blade with Spoiler ที่มาพร้อม Adapter ถึง 7 แบบในชุดเดียว ทำให้ครอบคลุมรถยนต์ในตลาด และให้คุณสามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน 1.Adapter รูปตัว U (U-Type / Hook Arm) เหมาะสำหรับ: ก้านแบบตะขอมาตรฐาน ซึ่งเป็นแบบที่พบได้บ่อยที่สุด รถยนต์ที่นิยมใช้: รถยนต์ญี่ปุ่นและเกาหลีส่วนใหญ่: Toyota, Honda, Isuzu, Mitsubishi, Nissan, Mazda, Hyundai, Kia 2.Adapter รูปตัว P&H (Pin & Hook Arm) เหมาะสำหรับ: ก้านแบบสลักด้านข้าง (Side Pin Arm) รถยนต์ที่นิยมใช้: รถยนต์ยุโรปและอเมริกันหลายรุ่น Volkswagen, BMW (บางรุ่น), Mercedes-Benz (บางรุ่น), Ford Ranger (บางรุ่น), Chevrolet Captiva 3.Adapter รูปตัว PTB (Push Tab Button) เหมาะสำหรับ: ก้านแบบปุ่มกด (Push Button Arm) รถยนต์ที่นิยมใช้: รถยนต์ยุโรปรุ่นใหม่ๆ : Volkswagen,BMW , Mercedes-Benz, Audi 4.Adapter แบบ NTPB (Narrow Top Push Button) เหมาะสำหรับ: ก้านแบบปุ่มกดขนาดเล็ก (Narrow Push Button Arm) รถยนต์ที่นิยมใช้: รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ก้านขนาดเล็กกว่าปกต

จานเบรกขึ้นสนิมแล้ว มีปัญหากับการใช้งานหรือไม่?

คราบสนิมสีส้มบนจานเบรกหลังโดนความชื้นเป็นเรื่องปกติที่พบได้บ่อย แต่สนิมนั้นมีทั้งแบบที่ไม่อันตรายและแบบที่ต้องรีบแก้ไข2 ประเภทหลัก เพื่อให้คุณรู้ว่าแบบไหนปลอดภัย และแบบไหนคือสัญญาณเตือนว่าต้องนำรถเข้าตรวจสอบ 1.สนิมผิวหน้า หากเป็นสนิมที่หน้าผิวจานเบรกเล็กน้อย ไม่มีผลต่อการใช้งาน เมื่อคุณขับรถ และแตะเบรกในครั้งแรกๆ ผิวหน้าที่เป็นสนิมก็จะถูกขัดออกด้วยแรงเสียดสีจากผ้าเบรก ซึ่งทำให้จานเบรกกลับมาเรียบเงาได้เองหลังจากใช้งานไม่กี่ครั้งสนิมชนิดนี้จึงเป็นเรื่องปกติและไม่น่ากังวล 2.สนิมลึก / สนิมขุม แต่หากเป็นสนิมที่ผิวหน้าจานเบรก หนาหรือลึก จนกินเข้าไปในเนื้อจานเบรก อาจทำให้เกิดปัญหาได้ เช่น เสียงเบรกดัง,ประสิทธิภาพการเบรกลดลง, ผ้าเบรกสึกไม่สม่ำเสมอ, และอาการเบรกสั่นสู้เท้า เป็นต้น สนิมชนิดนี้มักเกิดจากการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน และเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยที่ควรได้รับการแก้ไขทันที วิธีป้องกัน การใช้เบรกเป็นประจำ เพราะช่วยขัดผิวหน้าจานเบรกให้สะอาดอยู่เสมอ จอดรถในที่ร่มและแห้ง ช่วยลดการสัมผัสกับฝนและความชื้นโดยตรง หลีกเลี่ยงการฉีดน้ำมันหรือสารหล่อลื่น บนจานเบรกเพราะจะทำให้ผิวลื่นและลดประสิทธิภาพเบ

What Causes a Vibrating or Pulsating Brake Pedal?

Have you ever felt your brake pedal vibrating or pulsing under your foot when braking? In some cases, this vibration may even extend to the steering wheel. This is a warning sign of a common braking issue known as “brake judder” — a symptom of potential brake system malfunction that could compromise your driving safety. What Causes Brake Rotors to Warp? 1. Heat-Induced Warping of Brake Discs Low-quality or non-standard brake discs may fail to withstand high temperatures generated during intense braking or long downhill driving. Excessive heat can distort the metal, causing the disc surface to become uneven. 2. Sudden Temperature Change When a hot brake disc is suddenly exposed to cold water — such as from driving through a puddle — the metal may warp due to rapid contraction and uneven thermal expansion, resulting in brake judder. This can sometimes be temporarily resolved by resurfacing (machining) the disc, but not always. How to Fix a Pulsating Brake Pedal 1. Brake Disc

เบรกสั่นสู้เท้า เกิดจากสาเหตุอะไร…?

เคยไหม? เวลาเหยียบเบรกแล้วรู้สึกว่าแป้นเบรกสั่นกระพือสู้เท้า หรือบางครั้งอาจสั่นสะท้านไปถึงพวงมาลัย อาการเหล่านี้คือสัญญาณเตือนที่เรียกว่า “เบรกสั่น” หรือ “Brake Judder” เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบเบรกที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยได้ ส่วนใหญ่เกิดจาก จานเบรกคดหรือผิดรูป สาเหตุที่ทำให้จานเบรกคดหรือผิดรูป   1.การทนความร้อนของวัสดุ จานเบรกที่คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน อาจไม่สามารถทนทานต่อความร้อนสูงที่เกิดจากการเบรกหนักๆหรือการขับขี่ในเส้นทางลงเขาต่อเนื่องยาวนานได้ ทำให้เนื้อเหล็กเกิดการบิดตัวเสียรูปทรง 2.การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน จานเบรกที่ร้อนจัดโดนน้ำเย็นทันที ทำให้เนื้อเหล็กบิดตัวผิดรูป เกิดการหดและขยายตัวอย่างรวดเร็วและไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงที่ทำให้จานเบรกบิดเบี้ยว สามารถแก้ไขชั่วคราวได้ด้วยการเจียรจาน วิธีการแก้ปัญหา 1.การเจียรจานเบรก  เป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นที่ใช้ปรับผิวหน้าของจานเบรกให้เรียบเสมอกัน อย่างไรก็ตามสามารถแก้ไขใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น การเจียรจะไม่สามารถแก้ไขอาการเบรกสั่นได้อย่างถาวร และอาจส่งผลให้จานหมดอายุการใช้งานเร็วขึ้

ระบบ ABS มีผลต่อระยะเบรก ความปลอดภัยในสภาพถนนลื่นอย่างไร

ในสถานการณ์ฤดูที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษบนถนนลื่น ระบบเบรก ABS มีบทบาทสำคัญ ในการทำงานอย่างไร และส่งผลต่อระยะเบรกจริงหรือไม่ ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) เข้ามามีบทบาทสำคัญป้องกันล้อล็อกในยามเบรกแรงถูกออกแบบมาเพื่อลดโอกาสที่ล้อรถจะล็อกตายทำให้ผู้ขับขี่ยังคงบังคับทิศทางของรถได้แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องเบรกกะทันหันหรือขับบนถนนที่ลื่น. หลักการทำงานของ ABS เมื่อคุณเหยียบเบรกจนสุดเพื่อหยุดรถกะทันหัน เซ็นเซอร์ที่ล้อจะทำงานทันที หากตรวจพบว่าล้อใดกำลังจะหยุดหมุน (ล็อก) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบ ABS  จะเข้าควบคุมระบบเบรกทันที โดยสั่งให้ปั๊มเบรก ” จับและปล่อย ”  ที่จานเบรกซ้ำๆความเร็วสูงถึง 16-50 ครั้งต่อวินาที เพื่อป้องกันการล็อก ซึ่งการทำงานนี้จะส่งผลให้ผู้ขับขี่ รู้สึกถึงอาการสั่นสะท้านที่แป้นเบรกเป็นจังหวะถี่ๆ และนั่นคือสัญญาณว่าระบบกำลังทำงานอย่างถูกต้อง ผลต่อระยะเบรกและความปลอดภัย บนถนนแห้งและปกติ: ระยะเบรกของรถที่มี ABS โดยปกติจะสั้นลง หรือใกล้เคียงกับเบรกแบบปกติ หากเบรกในกรณีฉุกเฉินแรงๆ เพราะล้อจะไม่ถูกล็อก บนถนนเปียกลื่น: ระบบ ABS จะทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเข