รวม 5 ความเชื่อผิดๆเรื่องการใช้รถที่คุณต้องรู้

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการใช้รถที่ได้บอกต่อและปฏิบัติต่อๆกันมา

ความเชื่อเหล่านี้จะส่งผลต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ใช้รถ และอาจส่งผลเสียกับรถยนต์ในระยะยาว วันนี้เรามาเช็คกันครับ ว่าตัวคุณมี 5 ฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

1.ประหยัดน้ำมันด้วยการเปลี่ยนเกียร์บ่อยๆ
การขับรถแบบสลับเกียร์ไปมา (ไม่ว่าจะรถเกียร์ออโต้ หรือ เกียร์ธรรมดา) เพื่อให้เข้ากับสภาพถนนหรือเพื่อความมันความสนุกในการขับขี่ ทำแบบนี้รถจะกินน้ำมันมากกว่าที่คิด มากกว่าการขับแบบค่อยๆ เปลี่ยนเกียร์ และไม่สลับเกียร์ไปมาจนเกินความจำเป็น

2.ยกที่ปัดน้ำฝน เวลาจอดรถตากแดด ช่วยยืดอายุใบปัด
การยกที่ปัดน้ำฝนขึ้นไม่ได้ช่วยยืดอายุการใช้งานอย่างที่เข้าใจ ใบปัดน้ำฝนมีการเสื่อมสภาพเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและวัสดุ ดังนั้นการยกหรือไม่ยกจึงไม่ต่างกัน เพราะไม่ว่ายังไงใบปัดน้ำฝนก็ยังได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่ดี

การยกที่ปัดน้ำฝนค้างไว้เป็นเวลานาน จะทำให้สปริงที่ยึดใบปัดให้แนบชิดสนิทกับกระจก เกิดการยืดตัว สปริงล้า ส่งผลให้แรงกดลงบนกระจกน้อยลง ทำให้ปัดน้ำฝนไม่เกลี้ยง แต่ถ้ายกขึ้นไม่นาน เช่น ตอนล้างรถ หรือทำความสะอาดกระจก จะไม่ส่งผลเสียอะไร
ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่ายเวลาเปลี่ยนนั้น ยางใบปัดน้ำฝนมีค่าเปลี่ยนเพียงไม่กี่ร้อยบาท แต่ถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุดก้านใบปัดน้ำฝน อาจเสียเงินในกระเป๋าเป็นหลักพันเลยทีเดียว

3.ดับเครื่อง ปล่อยเกียร์ว่าง ขับรถลงเขาได้เลย
ทำแบบนี้อันตรายมาก เพราะนอกจากเบรกจะไม่ทำงานแล้ว รถก็จะเสียการทรงตัวได้ง่ายอีก การขับแบบนี้มือใหม่วัยคะนองหลายคนอยากทดลองขับ ซึ่งไม่ควรอย่างยิ่ง เวลาขับลงเขาควรติดเครื่องยนต์ไว้ตลอดเวลา จะเป็นการดีที่สุด

4.น้ำมันเกียร์ค่อยเปลี่ยนตอนเกียร์เริ่มมีปัญหา
แบบนี้จะส่งผลเสียกับระบบเกียร์อย่างยิ่ง ความจริงควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร จะช่วยยืดอายุการทำงานของระบบเกียร์ได้ เพราะบ้านเราสภาพอากาศร้อนรวมถึงสภาพรถติดอย่างในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องขับแบบวิ่ง ๆ หยุด ๆ ส่งผลต่อการทำงานของระบบเกียร์เข้าไปอีกเหล่านี้คือความเชื่อผิดๆ ที่อาจสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ได้ แต่มากกว่านั้นคือ อันตรายจากอุบัติเหตุในการขับขี่ ดังนั้น ในการใช้รถจึงควรศึกษาข้อมูลให้ถูกต้องก่อน เพื่อการใช้รถได้อย่างเปี่ยมประสิทธิภาพ และความปลอดภัยอันสูงสุด

5.รถขับน้อยไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องจะมีการเสื่อมประสิทธิภาพลงตามเวลา และการที่ต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมของเครื่องยนต์ที่ไม่ได้สตาร์ตมาเป็นเวลานานอาจเกิดความชื้นขึ้นภายในเครื่องยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสนิมหรือคราบเขม่าตามมาได้หากฝืนใช้งาน

โดยทั่วไปการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จะขึ้นอยู่กับครบระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนดหรืออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อนกัน (ขึ้นอยู่กับประเภทน้ำมันที่เลือกใช้)
ในบางกรณีไม่จำเป็นต้องรอจนครบระยะทางหรือระยะเวลาที่กำหนด หากเราตรวจเช็กรถในเบื้องต้นแล้วพบว่าน้ำมันเครื่องมีปริมาณที่ลดลง หรือน้ำมันเครื่องมีสีที่ดำมากกว่าปกติ เราควรที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในทันที นอกจากนี้ยังต้องนำรถเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะลักษณะแบบนี้หมายความว่ารถของเราเริ่มมีอาการผิดปกตินั่นเอง

หากใครมีพฤติกรรมแบบ 5 ข้อนี้ ปรับเปลี่ยนการใช้งานรถเลยนะครับเพื่อรถยนต์คู่ใจจะได้อยู่กับเราไปนานๆและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าควรจะเป็น
นอกจากพฤติกรรมการใช้รถแล้วสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการตรวจเช็ครถยนต์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เกียร์ ใบปัดน้ำฝน น้ำมันเครื่อง ฯลฯ เมื่อตรวจเช็คว่ามีส่วนใดพร่องหรือเสียหายควรรีบเปลี่ยนทันที โดยซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้นนะครับ
หาอะไหล่แท้หรือผลิตภัณฑ์ดูแลรถยนต์ทุกรุ่นทุกแบรนด์ แบบอุ่นใจของแท้ 100% มาที่ G.P. Auto Parts ที่เดียวครบจบทั้งคัน
___________________________________

GPAutoparts (ศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ครบวงจร)
จัดจำหน่ายโดย บริษัท จีพี โมบิลิตี้ จำกัด (มหาชน)
ปรึกษา/สั่งซื้อ/สมัครตัวแทน : Line id @gpautoparts (มี @) หรือคลิก 👉
ติดต่อเรา : https://www.gpmobility.co.th/contact-us/
ติดตามเรา: https://linktr.ee/gpmobility
เปิดให้บริการ วันจันทร์-เสาร์ เวลา 08:30 น. – 17:30 น.
เบอร์ติดต่อ : 02-941-1222 (Auto),02-579-2882

More Posts