Knowledge

TAG – Knowledge แหล่งรวบรวม ข่าวสาร ความเคลื่อนไหว สถานการณ์ บทวิเคราะห์ การทดสอบ และ สาระน่ารู้ รวมถึงเป็นสื่อกลางข้อมูลผลิตภัณท์

วิธีเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถ

แบตเตอรี่รถยนต์สำคัญอย่างไร ทำไมต้องเปลี่ยน แบตเตอรี่รถยนต์เปรียบเสมือนหัวใจของรถ มีหน้าที่สำคัญดังนี้ สตาร์ทรถ: แบตเตอรี่จ่ายไฟให้กับมอเตอร์สตาร์ท ทำให้เครื่องยนต์ติด จ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้า: แบตเตอรี่จ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าต่างๆ ของรถ เช่น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟภายในรถ วิทยุ แอร์ สำรองไฟ: เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์จจะชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ แบตเตอรี่จะสำรองไฟไว้ใช้เมื่อไดชาร์จไม่สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอ ทำไมต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ อายุการใช้งาน: แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย 2-3 ปี สภาพแบตเตอรี่เสื่อม: อาการ เช่น สตาร์ทรถยาก ไฟหน้าหรี่ลง ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ การใช้งาน: การใช้งานรถที่หนักหน่วง เช่น ขับรถในเมืองที่มีการจราจรติดขัด เปิด-ปิดเครื่องยนต์บ่อยๆ สัญญาณเตือนว่าแบตเตอรี่รถอาจเสื่อม สตาร์ทรถยาก ไฟหน้าหรี่ลง ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ มีเสียงดังจากแบตเตอรี่ ตาแมวบนแบตเตอรี่เปลี่ยนสี การดูแลรักษาแบตเตอรี่ ตรวจสอบระดับน้ำกลั่น (สำหรับแบตเตอรี่แบบน้ำ) ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ ไม่ควรเปิดไฟทิ้งไว้โดยไม่สตาร์ทรถ ไม่ควรสตาร์ทรถแล้วจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน การเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถนั้น มีหลายปัจจั

3 อาการหลัก ที่ให้สันนิษฐานว่าคลัตช์รถของคุณกำลังมีปัญหา

วิธีการดูและสังเกตหากเจออาการแบบนี้คลัตช์รถยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา 1.คลัตช์ลื่น อาการเริ่มต้นเป็นลางร้ายที่บอกคุณก่อนที่คลัตช์ของคุณจะหมด อาการคลัตช์ลื่นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ ใน 2 กรณีคือ 1.1 คลัตช์ใกล้หมด ซึ่งมีสาเหตุใหญ่มาจากผ้าคลัตช์ที่เริ่มบาง 1.2. เครื่องมีกำลังเกินกว่าที่คลัตช์ จะรับได้ ซึ่งมักจะพบในรถยนต์กลุ่มที่มีการโมดิฟายเครื่องยนต์เท่านั้น ซึ่งหากรถคุณไม่ได้โมดิฟายเครื่องยนต์ แน่นอนว่า นี่เป็นสาเหตุของอาการคลัตช์ใกล้หมดที่เริ่มบ่งชี้อาการว่า รถของคุณกำลังไม่ปกติ 2. ความเร็วลดลงในรอบเครื่องเท่าเดิม บางครั้งในรถยนต์บางรุ่น คุณอาจไม่พบอาการคลัตช์ลื่นก็เป็นไปได้ และ นี่อาจเป็นอาการอย่างที่ 2 โดยเฉพาะ ในรถยนต์เกียร์อัตโนมัติ ที่ยากมากที่คุณจะสังเกตอาการคลัตช์ลื่น บางครั้งถ้าคุณพบว่า ที่ความเร็วเท่าเดิม แต่ใช้รอบเครื่องสูงขึ้นกว่าเดิม หรือรอบเครื่องเท่าเดิม แต่ได้ความเร็วต่ำกว่าที่เคยทำได้ นั่นก็เป็นอาการหนึ่งของคลัตช์ลื่นที่ช่วยเตือนคุณก่อนคลัตช์จะหมดเช่นกัน 3. ขึ้นเนินชันได้ช้ากว่าปกติ บางครั้งทั้ง 2 อาการขั้นต้นที่กล่าวไป คุณอาจจะยังไม่พบอาการ แต่ถ้าคุณสามารถสังเกตได้ว่า รถเริ่ม

วิธีเปลี่ยนไส้กรองแอร์ด้วยตัวเอง ฉบับเข้าใจง่าย ทำได้ชัวร์

การเปลี่ยนไส้กรองแอร์รถยนต์ด้วยตัวเอง เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถทำได้ด้วยตัวเองภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ช่วยให้อากาศในห้องโดยสารสะอาดสดชื่น และประหยัดพลังงานของเครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ไขควง ผ้าสะอาด ไส้กรองแอร์รถยนต์ใหม่ แนะนำไส้กรองแอร์คุณภาพสูงในราคาประหยัด 1.Denso  มีอัตราการไหลเวียนของอากาศที่ดี มีการสูญเสียแรงดันน้อย ทำให้ไม่เพิ่มภาระโหลดของพัดลมในเครื่อง ดักจับละอองเกสรต่างๆ กรองฝุ่น ไมครอนเล็กๆ รวมถึง PM 2.5 ไอระเหย ไอเสีย และไอการเผาไหม้ของรถยนต์ได้ดี มีส่วนช่วยในการยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์ คอยล์เย็นของรถยนต์จะไม่ตัน 2.ACDelco  กรอง 3 ชั้น สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่า 99.81% ป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราไม่ให้เจริญเติบโต ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ขจัดสารก่อภูมิแพ้ ขั้นตอนการเปลี่ยนไส้กรองแอร์รถยนต์ เปิดฝากระโปรงหน้ารถ หาตำแหน่งของไส้กรองแอร์รถยนต์ โดยปกติแล้วจะอยู่บริเวณด้านซ้ายหรือขวาของเครื่องยนต์ ใต้หน้ากาก หรือใต้คอนโซลรถ ใช้ไขควงไขน็อตหรือตัวล็อกที่ยึดฝาครอบไส้กรองแอร์ออก ดึงฝาครอบไส้กรองแอร์ออก ดึงไส้กรองแอร์เก่าออก ตรวจดูสภาพไส้กรองแอร์เ

6 วิธีถนอมผ้าเบรก ยืดอายุการใช้งาน ปลอดภัยทุกการขับขี่

ผ้าเบรก หัวใจสำคัญในการหยุดรถอย่างปลอดภัย ผ้าเบรกเป็นส่วนประกอบของระบบเบรกที่สำคัญ ทำหน้าที่สร้างแรงเสียดทานกับจานเบรกเพื่อชะลอหรือหยุดรถ ผ้าเบรกจะค่อย ๆ สึกและบางลงตามการใช้งาน หากผ้าเบรกหมดหรือสึกหรอมากจนเกินไป อาจทำให้เบรกไม่มีประสิทธิภาพหรือเกิดอุบัติเหตุได้ วิธีสังเกตอาการผ้าเบรกหมด เสียงดังเวลาเหยียบเบรก แป้นเบรกต่ำลง เบรกไม่มีประสิทธิภาพ “ผ้าเบรกที่สมบูรณ์ จะช่วยให้คุณหยุดรถได้อย่างปลอดภัย” 6 วิธีถนอมผ้าเบรก ยืดอายุการใช้งาน ปลอดภัยทุกการขับขี่ 1. ทำความสะอาดจานเบรกเป็นประจำ ควรล้างจานเบรกด้วยน้ำยาทำความสะอาดอุปกรณ์เบรก เพราะจานเบรกต้องเจอกับเศษฝุ่นเศษดิน หากปล่อยไว้นานๆ ฝุ่นจะแข็งตัว ทำให้เวลาเราเหยียบเบรกจะยิ่งกินผ้าเบรกมากขึ้น 2. ขับขี่อย่างมีสติและระมัดระวัง การขับรถเร็วหรือประมาท อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นควรขับขี่อย่างมีสติ ระมัดระวัง ไม่ขับรถเร็ว เพื่อลดการใช้เบรกฉุกเฉิน 3. หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแช่ การเหยียบเบรกแช่นั้นมักใช้เมื่อเวลาขึ้นเขาลงเขา ซึ่งจะทำให้ความร้อนของจานเบรกและผ้าเบรกสูงขึ้นจากการขับขี่ ทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกลดลงหรืออาจทำให้จานเบรก

carseat

Car Seat มีกี่แบบ เลือกใช้อย่างไร? ลูกน้อยปลอดภัย พ่อแม่หายห่วง

การเลือกคาร์ซีทให้เหมาะสมกับเด็ก 1.ควรจัดให้มี ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก และใช้งานอย่างถูกวิธีตลอดเวลาที่โดยสารรถยนต์ 2.เลือกรูปแบบคาร์ซีท และติดตั้งให้เหมาะสมตามช่วงอายุ สรีระ น้ำหนัก ส่วนสูงของเด็ก โดยที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กแรกเกิด-3 ปี ควรใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ ซึ่งจะปลอดภัยมากที่สุด หรือเด็กที่มีอายุ 2-6 ปี สามารถใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าได้ ส่วนเด็กที่เริ่มโต ควรใช้บูสเตอร์ซีท เป็นที่นั่งแบบหันมาด้านหน้าใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ 3.มีมาตรฐานความปลอดภัย จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ กรณีเลือกใช้ที่นั่งนิรภัยมือสอง ควรสำรวจสภาพไม่มีรอยบุบหรือแตก สายรัดหรือเข็มขัดมีสภาพดี และอายุการใช้งานไม่ควรเกิน 6 ปี 4.อ่านคำแนะนำการใช้การติดตั้งอย่างละเอียด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด 5.สำหรับรถเก๋ง ควรติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่เบาะหลัง ไม่ควรติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับ เนื่องจากเมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กอาจโดนกระแทกจากถุงลมนิรภัยได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 รูปแบบคาร์ซีท (Car Seat) จะต้องเลือก

สัญญาณเตือน_ช่วงล่างมีปัญหา

5 สัญญาณเตือน ช่วงล่างรถยนต์มีปัญหา

สัญญาณบ่งบอกให้รู้เมื่อ ช่วงล่างรถยนต์กำลังมีปัญหา รถยนต์นั้นมีหลายชิ้นส่วนประกอบกัน ต่างก็มีความสำคัญและหน้าที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะช่วงล่างรถยนต์มีส่วนสําคัญในการควบคุมอาการของรถยนต์  ควรหมั่นสังเกตและตรวจสอบช่วงล่างรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ อาการผิดปกติของช่วงล่างมีหลายแบบ ยิ่งใช้รถมากเท่าไหร่ ช่วงล่างรถยนต์ก็จะค่อยๆ เสื่อมสภาพตามไปเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่จำเป็นต้องลุยน้ำ ลุยโคลนบ่อยๆ คุณผู้ขับอาจสังเกตถึงการตอบสนองที่ผิดปกติของช่วงล่างรถบ้าง ซึ่งหากเห็นและแก้ไขทัน จะช่วยให้ขับรถได้อย่าง ปลอดภัย แถมยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมด้วย! แล้วอาการแบบไหนถึงจะเป็นสัญญาณไม่ดี? บ่งบอกว่าช่วงล่างมีปัญหา อาทิเช่น ขณะขับรถอยู่นั้น ตัวรถมีอาการเด้งขึ้น-ลงอยู่เกือบตลอดเวลาที่ขับรถ สัญญาณแบบนี้เดาว่าตัวสปริง หรือโช๊คอัพอาจมีปัญหา แนะนําให้นํารถไปให้ช่างรถช่วยตรวจดูเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ หรือขับรถแล้วรถเกิดอาการสั่นแปลกๆ อาการอย่างนี้อาจจะสามารถแก้ได้ ด้วยการถ่วงล้อ การถ่วงล้อเป็นการทําให้น้ําหนักล้อสมดุลกัน รถที่มีน้ำหนักล้อ สมดุลก็จะควบคุมได้ง่ายและไม่เกิดอาการสั่นหรือแกว่ง หากเกิดเ

GP autoparts

เตรียมรถให้พร้อม ก่อนเที่ยวปีใหม่

ก่อนการเดินทางไกลในช่วงเทศกาลหรือปีใหม่นี้ GP Autoparts มีวิธีเตรียมรถให้พร้อมเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทางมาฝากกันครับ ตรวจสอบภายนอก ตรวจสอบใต้ท้องรถหารอยรั่ว, หยด, ซึมของชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ ใช้ที่สว่างเพื่อสังเกตดูคราบน้ำหรือน้ำมันที่อาจมีการรั่วหรือไม่เปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจสอบคราบน้ำหรือน้ำมันที่อาจเกิดจากภายในรถ ตรวจสอบระบบน้ำและของเหลว ระดับน้ำในถังพักหม้อน้ำ,น้ำฉีดกระจก,น้ำมันเบรกหรือคลัตช์,น้ำมันเครื่องและน้ำกลั่นแบตเตอรี่ เติมหรือเปลี่ยนถ่ายของเหลวที่ขาด หาร้านเปลี่ยนถ่ายน้ํามันเครื่องใกล้ฉัน เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ตรวจสอบระบบช่วงล่าง โช้คอัพ, ลูกหมากคันชักคันส่ง, และเพลาขับเคลื่อน ตรวจสอบว่าไม่มีเสียงผิดปกติหรือสัญญาณที่บ่งชี้ปัญหา ตรวจสอบระบบเบรก -ผ้าเบรกควรมีความหนาเกิน 3 มม. -ตรวจเช็คจานเบรกว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ -ทดสอบเบรกมือว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ ตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ -ตรวจสอบดอกยางและลมยางโดยใช้เหรียญบาทวางระหว่างร่องดอกยางเพื่อตรวจสอบความหนา -ตรวจสอบเนื้อยางว่านิ่มพอที่จะให้น้ำยางยึดถนนได้ -ตรวจสอบแก้มยางหรือหน้ายางไม่มีรอยแตกลายงา ทดสอบระบบไฟส่องสว่าง

อยากเปิดอู่ซ่อมรถ

เริ่มต้นธุรกิจอู่ซ่อมรถยนต์อย่างประสบความสำเร็จ

ก่อนอื่นเลย คุณต้องสำรวจตัวเองให้ดีก่อนว่ามีความชอบ มีความรู้ และประสบการณ์มากพอหรือไม่ เพราะหากคุณแก้ไขปัญหารถยนต์ให้กับลูกค้าไม่ได้ คุณจะไม่มีโอกาสที่สอง ในทางกลับกัน หากคุณสามารถซ่อมรถยนต์ของลูกค้าได้อย่างไม่มีปัญหา บริการประทับใจ จากซ่อมรถยนต์ 1 คัน คุณจะได้ลูกค้าประจำและได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการบอกต่ออีกจำนวนมาก สิ่งที่ต้องเตรียมในการเปิดอู่ซ่อมรถยนต์ สถานที่: เลือกที่ทำการให้เหมาะสม ควรมีพื้นที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับการซ่อมและเก็บรักษารถยนต์ที่จะเข้ามาในอู่ ตรวจสอบว่ามีข้อกำหนดหรือระเบียบในพื้นที่ที่ทำการหรือไม่ เช่น การขออนุญาตในเขตธุรกิจของท้องถิ่น และความเหมาะสมในการทำธุรกิจในพื้นที่นั้น อุปกรณ์และเครื่องมือ: ต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ เช่น เครื่องช่วยเสียง อุปกรณ์ซ่อมเครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ อุปกรณ์ตรวจสอบสภาพรถยนต์ เป็นต้น ช่างซ่อมรถยนต์: ควรมีช่างที่มีความรู้และประสบการณ์ในการซ่อมและบำรุงรถยนต์ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดีที่สุด การส่งเสริมและฝึกอบรมช่างเพื่อเพิ่มทักษะและความเชี่ยวชาญก็เป็นสิ่งสำคัญ การจัดการธุรกิจ: การวางแผนธุรกิจแล

อะไหล่_OE-OEM-แตกต่างกันอย่างไร

อะไหล่ OE/OEM/Aftermarket ต่างกันอย่างไร?

อะไหล่รถยนต์มีหลากหลายประเภทอาจจะทำให้ผู้ใช้รถสับสน ว่าเราควรเลือกใช้อะไหล่ประเภทไหนและแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร วันนี้ G.P.Auto Parts จะมาทุกคนไปรู้จักกับอะไหล่รถยนต์ OE,OEM และ Aftermarket กันครับ OE = Genuine Parts คือ อะไหล่แท้ อะไหล่ที่มีโลโก้รถ พร้อมกล่องแท้ที่มีโลโก้รถยนต์อะไหล่แท้ มาตรฐานติดจากโรงงานประกอบรถยนต์ ใช้สำหรับให้บริการในศูนย์บริการหลังการขายด้วยเช่นกัน มาตรฐานสูงสุด QC โดยบริษัทรถโดยตรง รับประกันคุณภาพกับรถใหม่มาได้ถึงหนึ่งแสนกิโลเมตร OEM = Original Equipment Manufacturer คืออะไหล่ที่ผลิตโดยโรงงานที่ผลิตให้กับ OE หรือ สินค้าของแท้ ส่งโรงงานประกอบรถยนต์ แต่เจ้าของโรงงานผลิตออกมาขายโดยไม่ใส่ยี่ห้อรถยนต์ จะใส่ชื่อแบรนด์ตัวเอง เพื่อทำการตลาดแยกอิสระ อาจจะมีให้ซื้อหาข้างนอกไม่ครบทุกรุ่น ในกรณีที่ติดสัญญาผลิตกันตัวเองแทน คุณภาพเทียบเท่า หรือ เหมือนกับของแท้ติดรถยนต์ แต่ราคาถูกกว่า เพราะใช้แบรนด์ตัวเอง Aftermarket = งานแบรนด์ เป็นอะไหล่ที่ผลิตจากบริษัทอื่นนอกเหนือจากโรงงานผู้ผลิตรถ ซึ่งทำออกมาใช้เทียบอะไหล่ OEM ส่วนใหญ่จะทำมาเพื่อจุดประสงค์หลักๆ 2 อย่าง อย่างแรกคือทำมาให้ถ